เพื่อให้การขับขี่รถจักรยานยนต์ในเขตเมืองปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรรักษาความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่เกิน 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และควรรักษาระยะห่างระหว่างรถอย่างเหมาะสม หมั่นสังเกตสภาพจราจรรอบตัว ใช้กระจกมองหลังบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเลนกระทันหัน และใช้สัญญาณไฟทุกครั้งก่อนเลี้ยวหรือแซง นอกจากนี้การสวมหมวกกันน็อคที่ได้มาตรฐานตลอดเวลาที่ขับขี่ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุได้มาก สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้หากปฏิบัติอย่างจริงจัง จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้คุณกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยในทุก ๆ วัน
คำแนะนำสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในการปฏิบัติตามกฎหมายความเร็วในเขตเมือง
ผู้ขับขี่ควรตระหนักว่า “ถึงช้าแต่ถึงแน่” นั้นดีกว่ารีบแล้วไม่ถึง ผู้ขับขี่ควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อไม่ต้องรีบเร่งเวลาไปทำงานหรือกลับบ้าน ควรตรวจสอบมาตรวัดความเร็วบ่อย ๆ ขณะขับขี่ เพื่อควบคุมความเร็วให้อยู่ในระดับที่กฎหมายกำหนด และควรเรียนรู้สัญญาณจราจรต่าง ๆ ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ หลีกเลี่ยงการขับขี่ขณะง่วงหรือใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ที่สำคัญที่สุดคือมีจิตสำนึกในการเคารพกฎจราจร เพราะการขับขี่อย่างมีวินัยไม่ใช่แค่ป้องกันตนเอง แต่ยังเป็นการช่วยลดภาระของสังคมโดยรวมอีกด้วย นิ้ง กุลสตรี
บทลงโทษสำหรับการขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วเกินกำหนดในเขตเมือง
ผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนดในเขตเมืองอาจถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งมีบทลงโทษทั้งในรูปแบบค่าปรับและอาจถูกหักคะแนนความประพฤติในการขับขี่ โดยทั่วไปอัตราค่าปรับอยู่ที่ไม่เกิน 1,000 บาท แต่หากเป็นความผิดซ้ำอาจถูกยึดใบขับขี่หรือเรียกอบรมพฤติกรรมเพิ่มเติม ในบางกรณีที่ขับเร็วและเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง อาจถึงขั้นถูกฟ้องร้องทางแพ่งหรืออาญาได้ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงบทลงโทษที่ดีที่สุดคือการขับขี่ด้วยความรับผิดชอบและมีสติอยู่เสมอ เพราะนอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้คุณไม่ต้องเสียทั้งเงิน เสียเวลา และเสียประวัติในการขับขี่อีกด้วย
